วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อิงค์เจ็ตราคาถูก หมึกแท้หมึกเทียม หมึกเติม ติดแทงค์ แบบไหนดี

เวลามีงานคอมพิวเตอร์ทีไร ผมมักจะเจอคำถามว่า จะซื้อเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตสักตัว เลือกตัวไหนดี เครื่องตัวที่ราคาถูกๆ ที่ไม่เกินสองพัน น่าซื้อดีไหม

จะว่าไปคำถามแบบนี้ ออกจะเป็นคำถามที่กว้าง เพราะสิ่งที่จะตอบคำถามได้ดีที่สุดก็คือ เราต้องตอบให้ได้ว่าต้องการซื้อเครื่องไปใช้งานแบบไหน ระหว่างการพิพม์งานเอกสารทั่วๆ ไป ที่พิมพ์บ้างเป็นครั้งคราว หรือพิมพ์บ่อยๆ แถมยังต้องใช้สี่สีอีกต่างหาก หรือต้องการพิมพ์ภาพถ่ายสวยๆ ที่ไปถ่ายจากที่ต่างๆ มา

เพราะปริมาณการพิมพ์นั้น จะไปสัมพันธ์กับค่าหมึกที่คุณต้องจ่าย จึงควรจะตรวจสอบราคาหมึกของเครื่องพิมพ์รุ่นที่ต้องการซื้อด้วย ว่ามีราคาเท่าไหร่กันแน่ เพราะยิ่งพิมพ์มากคุณก็ต้องซื้อหมึกบ่อยครั้ง หากว่าตลับหมึกมีราคาสูง ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า เครื่องพิพม์ที่มีราคาสูงกว่า แต่มีค่าตลับหมึกที่ถูกกว่า

ราคาเครื่องอาจจะไม่ได้เป็นตัวชี้วัดสำหรับความคุ้มค่า เพราะหากว่าราคาเครื่องถูก แต่ตลับหมึกมีราคาสูง ก็ย่อมไม่คุ้ม และยิ่งหากพิพม์ได้น้อยก็ยิ่งไม่คุ้มมากขึ้น สำหรับคนที่ต้องการปริมาณการพิมพ์มาก เพราะแค่พิมพ์ไม่กี่ครั้ง ค่าตลับหมึกก็แพงกว่าตัวเครื่องเข้าไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ๆ ที่มีราคาสูงกว่า ก็มีเทคโนโลยีที่ดีกว่าตามไปด้วย

ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ ก็คือเครื่องพิมพ์ราคา 2 พันกว่าๆ แต่ค่าตลับหมึก เฉพาะตลับสี ก็มีราคาไม่ต่ำกว่า 700 บาทเข้าไปแล้ว แถมตลับหมึกดำอีก 500 บาท แถมตลับหมึกสี ก็เป็นตลับแบบรวม ไมได้แยกสีอีกต่างๆ และก็ให้ปริมาณการพิมพ์ที่ไม่เยอะ สำหรับการพิมพ์แบบภาพถ่าย ต่างกับเครื่องราคา 6-7- พัน ที่เป็นตลับแยกสี แม้จะมีราคาตลับต่อสี ประมาณ 500 บาท แต่ก็ได้ประมาณการพิพม์ที่เยอะกว่าพอสมควร แถมยังเป็นเครื่องพิมพ์แบบ 6 สี 8 สี อีกด้วย และลองขยับมาอีกระดับกับเครื่องขนาดใหญ่ราคา หมื่นปลายๆ เราพบว่า ราคาตลับหมึก เหลือเพียง 300 บาท ต่อตลับ เท่านั้นเอง แต่ก็ได้ความสามารถในการพิพม์ A3 มาด้วย ขณะที่ราคาหมึกกลับถูกกว่าแบบแรกตั้งเยอะ

เอาละถ้าจะเพิ่มความคุ้มค่าขึ้นอีกหน่อย ทางเลือกก็คือการซื้อหมึกเทียม ที่ไม่ใช่ยี่ห้อเดียวกับหมึกแท้นั่นเอง ในตลาดก็มีอยู่มากมายหลายยี่ห้อให้เลือกใช้งาน โดยราคามีตั้งแต่ 50-70 เปอร์เซ็นต์ของราคาหมึกแท้ แต่จะว่าไปหมึกเทียม ก็มีข้อเสีย ตรงที่ความคมชัดของหมึก อาจจะสู้หมึกแท้ไม่ได้ และหากว่าหมึกแท้มีคุณสมบัติกันน้ำ ก็อาจจะไม่พบคุณสมบัตินี้ในหมึกเทียม

หากว่าหมึกเทียมยังแพงไป ก็ยังมีทางเลือกให้อีก คือการซื้อหมึกมาเติมเอง แน่นอนวิธีการนี้ มี่ใช้จ่ายที่ถูกกว่าแน่ๆ เพราะที่มูลค่าที่ต้องจ่ายเท่ากัน อาจจะทำให้เราสามารถพิมพ์เอกสารได้เป็นริมๆ เลยทีเดียว แต่ยิ่งถูก ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อแลกเปลี่ยน เพราะอันดับแรกคุณต้องเติมหมึกเอง ซึ่งทั้งยุ่งยาก เลอะเทอะ และหากเติมไม่ดี ผลก็คือตลับหมึกอันนั้นก็จะเสียไปเลย หรืออีกทางหนึ่งก็คือให้ร้านที่รับเติมหมึกเติมให้ แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสำหรับค่าเติม และปริมาณหมึกที่ได้

สุดท้าย ก็คือเอาเครื่องไปติดแทงค์เลย อันนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพิมพ์เยอะๆ ซึ่งค่าหมึกนั้นจะถูกมาก แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง ชุดแทงค์ และค่าหมึกเริ่มต้น แต่ก็ต้องดูว่ารุ่นที่เราใช้อยู่นั้น สามารถติดแทงค์ได้หรือไม่ ข้อเสียของการติดแทงค์ ก็คือ เราจำเป็นต้องพิมพ์บ่อยๆ เช่น อาจจะพิพม์ทุกวัน วันละแผ่นสองแผ่น แล้วแต่ เพราะว่าไม่งั้นหัวพิมพ์จะอุดตัน แล้วอย่างที่สองก็คือไม่เหมาะสำหรับการพิมพ์ภาพถ่ายเ พราะสีไม่ชัด ไม่คม แถม ยังออกจะซีดจางอีกด้วย และหากว่าเครื่องพิมพ์เกิดปัญหา ก็ห้ามเอาไปซ่อมที่ศูนย์โดยตรง ต้องผ่านทางร้านที่รับติดแทงค์ให้เท่านั้น เพราะศูนย์จะไม่รับประกันเลย

เท่านี้ ก็คงพอจะเลือกได้แล้วนะครับ ว่าคุณจะซื้อเครื่องพิมพ์แบบไหนมาใช้งานดี

ข้อมูลจาก : http://www.arip.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ